ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับมอบหมายจาก องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น “การพัฒนาเกณฑ์สิ้นสุดการเป็นของเสียสำหรับแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ที่ไม่ใช้แล้ว ครั้งที่ 1” ในวันพุธที่ 17 เมษายน 2567 เวลา 08.30 – 15.30 น. ณ ห้องประชุมสุรศักดิ์ 1 โรงแรมอีสตินแกรนด์สาธร กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางการศึกษา พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ต่อการจัดตั้งโครงสร้างเชิงสถาบันและการพัฒนาเกณฑ์สิ้นสุดการเป็นของเสีย ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้โครงการ Provision of Services Relative to End-of-Waste Management in Thailand Focusing on Plaster Mold Waste ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) โดยได้รับเกียรติจากนายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมด้วยการบรรยายนโยบายด้านการพัฒนาเกณฑ์สิ้นสุดการเป็นของเสีย โดยดร.ปัทมวรรณ คุณประเสริฐ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน ในงานนี้มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 40 ท่านจากภาครัฐ เอกชน อุตสาหกรรม สถาบันการศึกษาและวิจัย และหน่วยงานอิสระ โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบโครงการ Application of Industry-Urban Symbiosis and Green Chemistry for Low Emission and Persistent Organic Pollutants Free Industrial Development in Thailand ขององค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนรัฐบาลไทยในการสาธิตการแลกเปลี่ยนกากอุตสาหกรรม โดยการเตรียมเกณฑ์สิ้นสุดการเป็นของเสีย และสนับสนุนหน่วยงานที่รับผิดขอบในการเตรียมการจัดโครงสร้างสถาบันและกระบวนการปฏิบัติสำหรับของเสียอื่นๆ ซึ่งจะนำไปสู่ทางเลือกนวัตกรรมของการจัดการกากอุตสาหกรรมในประเทศไทย
🌐📑📊🌏เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้จัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการ”การยกระดับระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมและก๊าซเรือนกระจกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” ซึ่งได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ณ ห้องจามจุรี 1 โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการ และเปิดระบบฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทดลองใช้งาน Digital Waste Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นำข้อมูลกากอุตสาหกรรมมาวิเคราะห์และแสดงผลในรูปแบบดิจิทัล รวมทั้งนำข้อมูลไปสร้างเป็น Model เพื่อวิเคราะห์โดยผ่านกระบวนการ Machine Learningทั้งนี้ งานสัมมนาดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มาเป็นประธานในการกล่าวเปิดงาน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา สถาบันการวิจัย และหน่วยงานผู้ให้ทุนทำให้ได้รับข้อเสนอแนะและคำแนะนำจากผู้ที่ทดลองใช้งานระบบ Digital Waste Platform รวมไปถึงความต้องการเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มดังกล่าวต่อไปในอนาคต
________________________________________
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามกิจกรรมจาก #ศสอ. ได้ที่
📩 hsm@chula.ac.th
☎️ 02 218 3952
Center of Excellence on Hazardous Substance Management #HSM

ขอแสดงความยินดีกับ รศ.ดร.เพ็ญศิริ เอกจิตต์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และผู้เชี่ยวชาญภายใต้ “ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development : WMS-HUB)” โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก WMS-HUB เพื่อนำเสนอผลงานวิจัย หัวข้อ “Medical Waste Classification Using Convolutional Neural Network” ในงาน 2024 14th International Conference on Future Environment and Energy (ICFEE 2024), Matsue City ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 และได้รับรางวัล the best presentation award ใน Session 3: Ecological Environment Pollution Control and Disaster Management

🌱 Grateful for the insightful discussions at the “ESG and Sustainable Finance” event held at Silpakorn University and Chulalongkorn University on March 5th-6th! 🌍
.
Key takeaways included exploring the journey of ESG, understanding its current state of play, and identifying both risks and opportunities. The event shed light on the relationship between ESG and sustainable finance, introducing new models for sustainable development and providing an overview of sustainable finance instruments.
.
Highlights included Mr. Bill H. Rahill’s expertise in sustainable finance and operations management, offering exclusive insights into ESG implementation and financial opportunities for companies. Professor Dr. Pisut Painmanakul provided a comprehensive perspective on ESG from a national standpoint, outlining Thailand’s approach and influencing factors. Additionally, Mr. Sivach Kaewcharoen shared valuable information on Thailand’s greenhouse gas emission reduction efforts and strategies.
.
A special thanks to the National Council of Thailand, Hub of Waste Management for Sustainable Development, all speakers, and participants for contributing to this enriching dialogue. Together, let’s continue driving progress towards a more sustainable future!
.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามกิจกรรมจาก #ศสอ. ได้ที่
🌐 เว็บไซต์ : https://hsm.chula.ac.th/website/
📱 Facebook : https://www.facebook.com/HazardousSubstanceManagement
📩 Email : hsm@chula.ac.th
☎️ โทรศัพท์ : 02 218 3952
CENTER OF EXCELLENCE ON HAZARDOUS SUBSTANCE MANAGEMENT

ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development : WMS HUB) ภายใต้ การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติ เรื่อง “การจัดการของเสียในประเทศไทยและอาเซียนมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2567 โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ (Keynote Speaker) อาทิเช่น

  • ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานคณะกรรมการกำกับและติดตามการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
  • รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการยกร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 10 ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ’
  • ดร.ปัทมวรรณ คุณประเสริฐ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม
  • ดร.นภาพร ตั้งถิ่นไท นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ

พร้อมทั้งได้รับเกียรติจากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียที่นำเสนอแนวคิด และประสบการณ์อีกหลายท่าน โดยมีเข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา สถาบันการวิจัย หน่วยงานผู้ให้ทุน และภาคประชาสังคม เป็นจำนวนมาก การประชุมดังกล่าวทำให้ได้ทราบถึงทิศทางงานวิจัยต่อการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและสังคม นโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โจทย์และทิศทางงานวิจัยด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนจากหน่วยงานให้ทุน รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายนักวิจัยด้านการจัดการของเสียทั้งในประเทศและระดับอาเซียน


website : wmshub.org

facebook : https://www.facebook.com/HubofWasteManagementforSustainableDevelopment/

📣📣Toward Circular world📣📣
ทิศทางงานวิจัยของไทย ต่อการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

วันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2567 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development : WMS HUB) ภายใต้ การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติ เรื่อง “การจัดการของเสียในประเทศไทยและอาเซียนมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน”

โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ (Keynote Speaker) จากหน่วยงานต่างๆ อาทิเช่น ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานคณะกรรมการกำกับและติดตามการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ด้านสิ่งแวดล้อม ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการยกร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 10 ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียอย่างยั่งยืนภายใต้ Hub of Waste Management for Sustainable Development

ผู้ร่วมงานจะได้ทราบถึงทิศทางงานวิจัยต่อการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและสังคม นโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โจทย์และทิศทางงานวิจัยด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนจากหน่วยงานให้ทุน รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายนักวิจัยด้านการจัดการของเสียทั้งในประเทศและระดับอาเซียน

📌📌มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน📌📌

📋 ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ที่ https://forms.gle/vayczBrrDtH9kDwi7 ภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

📑 เอกสารประกอบการประชุม https://drive.google.com/drive/folders/1ApBB2tknGpOP7-d7TciVk3BhI6jb7tnO?fbclid=IwAR3vdnbkLXiqSkPly4TACpX3cYX6mTz-wEdRB2RfQtkMbiLE_JA-8eTQkLw

📬 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณจันท์ศจี ทิพยสุนทรานนท์
โทรศัพท์ 08 9097 6996
อีเมล poupaemegumi@gmail.com

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development) ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้จัดการสัมมนา “สถานการณ์การจัดการของเสียและนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน” ณ ห้องจามจุรี บอลรูม บี โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการของเสียให้เป็นไปตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน เน้นการนำทรัพยากรที่ถูกนำไปใช้แล้วกลับมาแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาจากทั้งภาคสถาบันการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชน เป็นจำนวนมาก โดยงานสัมมนาดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัยเชี่ยวชาญ สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานกลุ่มของเสียชุมชน ศาสตราจารย์ ดร.อรทัย ชวาลภาฤทธิ์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.ชวาธิป จินดาวิจักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายรับรองระบบ และกำกับดูแลสายธุรกิจ Conformity Assessment Bodies สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ

กรมโรงงานฯ ร่วมกับ GIZ จัดรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนที่นำทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนที่นำทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ภายใต้โครงการ Climate Action Programme for the Chemical Industry (CAPCI): Supporting the Development of a National Roadmap on Sustainable Chemical and Climate Change for Thailand โดยมี ดร. เดสเลฟ ชไรเบอร์ (Dr. Detlef Schreiber) ผู้อำนวยการโครงการ CAPCI องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมบรรยายพิเศษการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีที่ยั่งยืนในประเทศต่าง ๆ และมีนางสาวอารยา ไสลเพชร ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน นางสาวปานทอง ศรีคัฒนพรหม รักษาการนักวิทยาศาสตร์เชี่ยวชาญ กองบริหารจัดการวัตถุอันตราย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชน สถาบันการศึกษาวิจัย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาโครงการฯ และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวม 97 คน เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ

อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง โดยมีการปล่อยจากภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ มากเป็นลำดับที่ 2 รองจากอุตสาหกรรมอโลหะ/ซีเมนต์ อุตสาหกรรมเคมีจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการปัญหาโลกร้อน รวมทั้งเป็นโอกาสในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำต่อไป ทั้งนี้ แผนที่นำทางฯ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากโครงการ CAPCI ภายใต้ความร่วมมือไทย-เยอรมันนี้ จะเป็นกรอบแนวทางสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีคาร์บอนต่ำและยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป

ที่มา: https://www.facebook.com/diwindustrial

♻️🌎 วันที่ 11 มกราคม 2567 คณะวิจัยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย และสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการกู้คืนสารทำความเย็นที่ บริษัท อิวาตานิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บางกอก แก๊ส เซ็นเตอร์ เป็นที่แรกในประเทศไทยที่เริ่มกระบวนการ recovery สารทำความเย็นให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้ “โครงการส่งเสริมกระบวนการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี สนับสนุนโดยกองทุนนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมทำความเย็น (EGAT Cooling Innovation Fund: CIF)” มีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อศึกษาและออกแบบแนวทางการรวบรวมซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็น โดยมีการนำเทคโนโลยีการใช้ระบบติดตามซากฯ ที่ได้พัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและแรงจูงใจให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นที่จะนำไปสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

🧪🏭♻️🌏 วันที่ 5 มกราคม 2567 คณะวิจัยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย และสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ดำเนินการขนส่งซากเครื่องปรับอากาศเข้าสู่ระบบการจัดการอย่างถูกต้อง ที่รวบรวมร่วมกับ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด ในเเคมเปญ “เก่าแลกใหม่” ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้ “โครงการส่งเสริมกระบวนการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธี สนับสนุนโดยกองทุนนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมทำความเย็น (EGAT Cooling Innovation Fund: CIF)” มีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อศึกษาและออกแบบแนวทางการรวบรวมซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็น โดยมีการนำเทคโนโลยีการใช้ระบบติดตามซากฯ ที่ได้พัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและแรงจูงใจให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นที่จะนำไปสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธี