เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 รศ.ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) เข้าร่วมพิธีเปิดสมาคมคุณภาพอากาศ ภูมิอากาศ และสุขภาวะ (ประเทศไทย) ณ ห้องประชุม 1209 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี รศ.ดร.มณีรัตน์ องค์วรรณดี นายกสมาคมฯ กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดงาน โดยในงานมีการปาฐกถาจากผู้บริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งมีการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนและอภิปรายเพื่อแสดงข้อคิดเห็นและประเด็นต่างๆ ร่วมกัน
ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานในปีที่ 1 พร้อมวางแผนและพัฒนากิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development) จัดการประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงานในปีที่ 1 และวางแผนพัฒนากิจกรรมสำหรับปีที่ 2-5 โดยมี รศ.ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) และหัวหน้าศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญฯ เป็นประธานในการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 9 ศสอ.
รศ.ดร.สุธา ขาวเธียร ได้นำเสนอผลการดำเนินงานของศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญฯ ในปีที่ 1 รวมไปถึงแนวทางในการพัฒนาและการดำเนินงานในปีที่ 2-5 พร้อมทั้งระดมความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะในการสร้างเครือข่ายและบูรณาการความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการของเสียทั้งในและต่างประเทศ จากประธานกลุ่มการจัดการของเสีย ประกอบไปด้วย ดร.ปัทมวรรณ คุณประเสริฐ (กลุ่มของเสียอุตสาหกรรม) ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี (ของเสียชุมชน) รศ.ดร.สุเทพ ศิลปานันทกุล (มูลฝอยติดเชื้อ) และ ผศ.ดร.มานิตย์ นิธิธนากุล (ของเสียพลาสติก) เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการฯ และงานวิจัยด้านการจัดการของเสียในประเทศไทยได้มีแนวทางและยุทธศาสตร์การวิจัยที่เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง รวมไปถึงการขยายเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยีด้านการจัดการของเสียที่เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนให้เกิดความยั่งยืน
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) พร้อมด้วยคณะนักวิจัย ได้ต้อนรับ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) และคณะ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อนมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพสิ่งแวดล้อมและสารอันตราย สาขาการจัดการของเสียอุตสาหกรรม สาขาการจัดการของเสียชุมชน และสาขาการติดตามและประเมินผลสิ่งแวดล้อม โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุธา ขาวเธียร ให้ความสนใจและยินดีร่วมผลักดันให้เกิดการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการสร้างเครือข่ายเพื่อขยายความร่วมมือในวงกว้าง
เมื่อวันที่ 23 -26 เมษายน 2567 รศ.ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมด้วย ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม คุณวานิช สาวาโย นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ ส่วนลดและใช้ประโยชน์ของเสีย กรมควบคุมมลพิษ คุณประโชติ กราบกราน นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดร.กิตติพันธุ์ บางยี่ขัน อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายอุตสาหกรรม) สำนักงานที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรม ประจำกรุงโตเกียว ร่วมกับประธานกลุ่มของเสียอุตสาหกรรม (ดร.ปัทมวรรณ คุณประเสริฐ) ของเสียพลาสติก (ผศ.ดร. มานิตย์ นิธิธนากุล) ของเสียติดเชื้อ (รศ.ดร.สุเทพ ศิลปานันทกุล) และคณะนักวิจัยจากศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญฯ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมสถาบันวิจัย และโรงงานอุตสาหกรรมด้านการจัดการของเสียประเภทต่างๆ ภายใต้ “การศึกษาดูงานการจัดการของเสียอย่างยั่งยืน” ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โดยคณะผู้เข้าร่วมการศึกษาดูงานได้เข้าเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์งานวิจัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ณ National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) ที่เน้นเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ เทคโนโลยีเซนเซอร์ในแบบจำลอง AI เพื่อรักษาคนไข้ รวมถึงการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ และการนำดินมาวิเคราะห์การเกิดแผ่นดินไหว เป็นต้น อีกทั้งยังมีโอกาสอันดีที่ได้รับทราบสถานการณ์การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และนโยบายการขยายความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของผู้ผลิตและหน้าที่ของผู้บริโภค กับ the Association for Electric Home Appliances (AEHA) และยังมีโอกาสได้เข้าหารือกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศญี่ปุ่น (Ministry of the Environment, Japan) ในการจัดทำแผนแม่บทจัดการขยะอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันการขนขยะข้ามประเทศ และการสร้างความร่วมมือสนับสนุนด้านวิชาการ ซึ่งจะช่วยยกระดับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เพื่อพัฒนาสู่เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียนตามนโยบายประเทศต่อไป
นอกจากนี้คณะผู้เข้าร่วมศึกษาดูงานยังได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงงานที่ดำเนินการจัดการของเสียแต่ละประเภท ได้แก่
- J&T Recycling Corporation โดยเน้นการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกในเขตเมืองโยโกฮามา เพื่อนำมาอัดก้อนก่อนส่งไปจำหน่ายเพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติกและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป
- Tokyo Rinkai Eco Green and J&T Recycling Corporation มีการใช้เทคโนโลยีการเผาไหม้เพื่อผลิตพลังงานในการจัดการของเสียอุตสาหกรรมและของเสียติดเชื้อ
- JFE Urban Corporation โรงงานถอดแยกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า 4 ประเภท ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ อย่างมีประสิทธิภาพและมีการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อทุ่นแรงคนในการทำงาน
- Kawasaki PET bottle recycling factory โรงงานรวบรวมของเสียพลาสติกที่มีการคัดแยกแล้ว และมีการเตรียมวัตถุดิบเพื่อผลิต rPET
- Keiaisha Co.,LTD at Yokohama Vehicle Recycling โรงงานรีไซเคิลชิ้นส่วนรถยนต์และกำจัดซากรถยนต์สิ้นสภาพ
ซึ่งจากการศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการของเสียอย่างยั่งยืนในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อคณะผู้ศึกษาดูงานและนักวิจัย เพื่อต่อยอดและนำองค์ความรู้ที่ได้มาปรับใช้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนานโยบาย กฎหมาย พร้อมทั้งนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยต่อไป
เมื่อวันที่ 23 -25 เมษายน 2567 รศ.ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย ได้เป็นผู้แทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อเจรจาหารือในการจัดการกากอุตสาหกรรมของประเทศไทย ที่จำเป็นต้องมีแผนแม่บท ออกกฎหมายที่ต้องบูรณาการทุกหน่วยงานในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน
ที่มา:https://www.facebook.com/diwindustrial






ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development : WMS HUB) ภายใต้ การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติ เรื่อง “การจัดการของเสียในประเทศไทยและอาเซียนมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2567 โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ (Keynote Speaker) อาทิเช่น
- ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานคณะกรรมการกำกับและติดตามการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
- รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการยกร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 10 ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ’
- ดร.ปัทมวรรณ คุณประเสริฐ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม
- ดร.นภาพร ตั้งถิ่นไท นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ
พร้อมทั้งได้รับเกียรติจากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียที่นำเสนอแนวคิด และประสบการณ์อีกหลายท่าน โดยมีเข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา สถาบันการวิจัย หน่วยงานผู้ให้ทุน และภาคประชาสังคม เป็นจำนวนมาก การประชุมดังกล่าวทำให้ได้ทราบถึงทิศทางงานวิจัยต่อการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและสังคม นโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โจทย์และทิศทางงานวิจัยด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนจากหน่วยงานให้ทุน รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายนักวิจัยด้านการจัดการของเสียทั้งในประเทศและระดับอาเซียน
website : wmshub.org
facebook : https://www.facebook.com/HubofWasteManagementforSustainableDevelopment/
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development) ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้จัดการสัมมนา “สถานการณ์การจัดการของเสียและนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน” ณ ห้องจามจุรี บอลรูม บี โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการของเสียให้เป็นไปตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน เน้นการนำทรัพยากรที่ถูกนำไปใช้แล้วกลับมาแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาจากทั้งภาคสถาบันการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชน เป็นจำนวนมาก โดยงานสัมมนาดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัยเชี่ยวชาญ สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานกลุ่มของเสียชุมชน ศาสตราจารย์ ดร.อรทัย ชวาลภาฤทธิ์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.ชวาธิป จินดาวิจักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายรับรองระบบ และกำกับดูแลสายธุรกิจ Conformity Assessment Bodies สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ
กรมโรงงานฯ ร่วมกับ GIZ จัดรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนที่นำทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนที่นำทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ภายใต้โครงการ Climate Action Programme for the Chemical Industry (CAPCI): Supporting the Development of a National Roadmap on Sustainable Chemical and Climate Change for Thailand โดยมี ดร. เดสเลฟ ชไรเบอร์ (Dr. Detlef Schreiber) ผู้อำนวยการโครงการ CAPCI องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมบรรยายพิเศษการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีที่ยั่งยืนในประเทศต่าง ๆ และมีนางสาวอารยา ไสลเพชร ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน นางสาวปานทอง ศรีคัฒนพรหม รักษาการนักวิทยาศาสตร์เชี่ยวชาญ กองบริหารจัดการวัตถุอันตราย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชน สถาบันการศึกษาวิจัย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาโครงการฯ และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวม 97 คน เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ
อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง โดยมีการปล่อยจากภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ มากเป็นลำดับที่ 2 รองจากอุตสาหกรรมอโลหะ/ซีเมนต์ อุตสาหกรรมเคมีจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการปัญหาโลกร้อน รวมทั้งเป็นโอกาสในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำต่อไป ทั้งนี้ แผนที่นำทางฯ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากโครงการ CAPCI ภายใต้ความร่วมมือไทย-เยอรมันนี้ จะเป็นกรอบแนวทางสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเคมีคาร์บอนต่ำและยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป
ที่มา: https://www.facebook.com/diwindustrial



