เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัยชำนาญการแห่งสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานกลุ่มของเสียชุมชน ร่วมกับคุณภัทรพล ตุลารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญของเสียชุมชน ดร.มงคลชัย อัศวดิษฐเลิศ ผู้ช่วยศูนย์ฯ และคุณเจริศา จำปา ผู้ประสานงานของเสียชุมชน ภายใต้ “ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development)” ได้เข้าร่วมประชุมกับ Mr. Jordan Kimball เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development – USAID) สำนักงานภาคพื้นเอเชีย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการวิจัยการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ของเสียอย่างยั่งยืนต่อไป

ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดำเนินงานโดย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การกำหนดโจทย์วิจัยด้านการจัดการของเสียชุมชน” เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 โดยเป็นการประชุมแบบ online และ on-site ณ ห้องประชุมกรรณิการ์ โรงแรมแมนดาริน แมนเนจ บาย เซ็นเตอร์ พ้อยส์ ในการประชุมดังกล่าวมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย เข้าร่วมประชุมจำนวน 70 คน โดยมีการนำเสนอภาพรวมการดำเนินงาน แนะนำประธานกลุ่มของเสียชุมชน และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นสร้างโจทย์วิจัยตามกรอบแนวทางยุทธศาสตร์และเป้าหมายของประเทศ เพื่อผลักดันให้เกิดการขยายผลการสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียชุมชนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการจัดการของเสียชุมชนต่อไป

♻️🌏 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development) ซึ่งดำเนินงานโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้จัดการประชุมชี้แจงแผนการดำเนินงาน การสร้างฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ และการกำหนดทิศทางงานวิจัย โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนหน่วยงานต่างๆ จากหลายภาคส่วนเข้าร่วมการประชุมและเป็นประธานคณะทำงานของแต่ละกลุ่มประเภทของเสีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและดำเนินงานของศูนย์รวบรวมฯ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะในการสร้างความร่วมมือในการพัฒนางานวิจัยร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของการจัดการของเสีย

🏭💻☣️ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Hub of Waste Management for Sustainable Development ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อผลักดันให้เกิดฐานข้อมูลสำหรับการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียอย่างครบวงจรจากภาคส่วนต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กากอุตสาหกรรม ขยะชุมชน ของเสียอิเล็กทรอนิกส์ มูลฝอยติดเชื้อ และขยะพลาสติก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายและบูรณาการความร่วมมือระหว่าง นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการของเสียทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ครอบคลุมทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ เอกชน อุตสาหกรรมและการบริการ รวมทั้งภาคประชาสังคม เพื่อนำไปสู่การพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการจัดการของเสียที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคส่วนต่างๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน

ผ่านพ้นไปแล้วกับกิจกรรม งาน Technomart 2022 งานแสดงผลงานวิจัยพร้อมใช้ เทคโนโลยีนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นโดยฝีมือคนไทย ภายใต้ Concept “เพิ่มคุณภาพชีวิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เมื่อวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
การจัดงานครั้งนี้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้รับเกียรติในการจัดกิจกรรมเสวนา หัวข้อ “นวัตกรรมสีเขียว…คืนคุณภาพชีวิต สู่สิ่งแวดล้อมยั่งยืน Go Green with HSM … for Better Life” และนำผลงานวิจัยไปจัดแสดงดังนี้
• เรื่อง “เอนไซม์ล้างผักและผลไม้ (M-Green)”
• เรื่อง “แผ่นกรองจากถ่านชีวภาพผสม ZnO”
• เรื่อง “MicroClear ชีวภัณฑ์กำจัดขยะพลาสติก”
• เรื่อง “ระบบติดตามขยะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว”
💚 ศสอ. ขอขอบพระคุณ สำนักงานโครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( PERDO ) รวมถึงอาจารย์และนักวิจัยทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมดีๆ เพื่อช่วยพลิกโฉมประเทศไทย สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน และที่สำคัญได้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถรับชมบรรยากาศในงาน กิจกรรมเสวนาและการจัดแสดงผลงานทางวิชาการจากศูนย์ความเป็นเลิศฯทั้ง 11 ศูนย์ได้ที่ 👉 https://web.facebook.com/profile.php?id=100080676248430

👏 ศสอ. ได้รับเกียรติเข้าร่วมพิธีแถลงข่าวงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2565 หรือ “TechnoMart 2022” ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน 2565 ณ ลิฟวิ่ง ฮอล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

📷ในช่วงท้ายของพิธีแถลงข่าวดังกล่าว นอกจากนั้น ประธานในพิธี ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนางวนิดา บุญนาคค้า ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะหน่วยจัดงาน ได้เยี่ยมชมตัวอย่างผลงานการจัดแสดงของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ที่จะนำมาจัดแสดงจริงในวันที่ วันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ภายใต้แนวคิด BCG สู่เศรษฐกิจ สร้างคุณค่า “เพิ่มคุณภาพชีวิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

📌สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ทั้ง 2 รูปแบบ (Hybrid Exhibition) ดังนี้
📅รูปแบบ Onsite ตั้งแต่ วันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน และบริเวณทางเชื่อมศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์
💻รูปแบบ Online ที่ https://www.technomart2022.com และhttps://www.facebook.com/TechnoMartThailand/ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 28 พฤศจิกายน 2565

🙏ข้อมูลโดย :
กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทร. 02-333-3927

ศสอ.ให้การต้อนรับคณะผู้ตรวจเยี่ยมจาก สป.อว. กองส่งเสริมและประสานงานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุม 207 ชั้น 2 อาคารวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จัดการประชุมนำเสนอ “ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอมาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางการเงินและการคลังที่เกี่ยวข้องกับการจัดการซากผลิตภัณฑ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศไทย” ภายใต้แผนงานวิจัยท้าทายไทย : การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และของเสียอันตรายชุมชน ระยะที่ 2
📆 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2565 เวลา 08.30 – 12.00 น.
📍ณ ห้องประชุมจามจุรี 2 โรงแรมปทุมวัน ปริ้นเซส กรุงเทพฯ
✅ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการ ศสอ. และผู้บริหารแผนงานวิจัยฯ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และนำเสนอผลการวิเคราะห์การจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ ตามร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ (ฉบับรับฟังความคิดเห็นมีนาคม 2564)
✅ จากนั้น ดร.ขวัญรัฐ ส่วนพงษ์ หัวหน้าโครงการข้อเสนอแนวทางด้านกฎหมายในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์มาตรการด้านเศรษฐศาสตร์ตามร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ (ฉบับรับฟังความคิดเห็นมีนาคม 2564)
✅ ตามด้วย การนำเสนอความก้าวหน้าของร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ โดย ผู้แทนส่วนพัฒนากฎหมาย กองกฎหมาย กรมควบคุมมลพิษ
✅ ปิดท้ายด้วยการแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่อผลการวิเคราะห์ข้อเสนอมาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางการเงินและการคลังจากผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เข้าร่วมประชุม

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติกที่ย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 5 กรกฎาคม ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม
ซึ่งเป็นเหตุให้ถังสารเคมีในโรงงานที่มีอยู่พันกว่าตันบางส่วนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงก่อให้เกิดผลกระทบจากมลพิษและมลสารที่ฟุ้งกระจายออกไปเป็นวงกว้าง หลายกิโลเมตร ในเรื่องนี้นักวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้จัดเสวนาออนไลน์แบบเร่งด่วนขึ้น เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคมที่ผ่านมา ในหัวข้อ “เปิดมุมมองวิศวกรรมเพื่อป้องกันและรับมืออุบัติเหตุสารเคมีในอนาคต” โดยมีผู้ร่วมเสวนาจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และนักวิชาการ ซึ่งในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. สุธา ขาวเธียร ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย ได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นถึงแนวทางในการรับมือกับปัญหาดังกล่าวในประเด็นเกี่ยวกับ “งานที่ต้องทำภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติก ตั้งแต่การคัดแยก บำบัดและกำจัดของเสียอันตรายอย่างถูกวิธี” โดยสรุปได้ดังนี้

“เหตุการณ์ดังกล่าวในขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีทีมงานจากหลากหลายหน่วยงานเข้าร่วมระงับเหตุเมื่อเหตุการณ์สงบและเริ่มคลี่คลายลง ยังคงมีกลุ่มคนอีกหลายหน่วยงานที่จะต้องเข้ามาจัดการกับปัญหาด้านมลพิษทั้งในที่เกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ ยกตัวอย่างเช่น โฟมที่ใช้ในการดับเพลิงสารเคมีที่รั่วไหลปนเปื้อนจำนวนมาก ยังไม่รวมถึงวัสดุอื่นๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการดับเพลิงซึ่งวัสดุเหล่านี้เป็นของเสียอันตราย จะต้องได้รับการคัดแยก นำไปบำบัด และกำจัดอย่างถูกวิธี

นอกจากนี้ ในการเฝ้าระวังเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นจะต้องมีการบูรณาการความร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน และนักวิชาการ อาทิ การบูรณาการด้านข้อมูลที่มีการจัดทำและจัดเก็บแยกในแต่ละหน่วยงานโดยต้องมีการแบ่งปันข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในกรณีมีเหตุการณ์สารเคมีหรือสารอันตรายเกิดการรั่วไหลขึ้น รวมทั้ง ต้องมีการ Monitor เรื่องความปลอดภัยซึ่งจะต้องทำอย่างจริงจังรวมถึงการจัดทำทำเนียบการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Registration) หรือ PRTR โดยโจทย์ที่สำคัญและจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอีกด้านคือ ข้อกำหนดกฏหมายซึ่งบางครั้งการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย ต้องใช้ระยะเวลายาวนานและมักไม่ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลา 13.30-15.45 น. สภาวิศวกรแห่งประเทศไทย นำทีมโดย ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์  นายกสภาวิศวกร ได้จัดเสวนาแบบไลฟ์สด “Why วิศวะ?” ในหัวข้อ “วิศวกรยุคดิสรัปชันกับทางรอดของโลก”

ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี จากรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมของกรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ว่าในปี 2563 ประเทศไทยมีปริมาณของเสียอันตรายจากชุมชนเกิดขึ้นประมาณ 656,651 ตัน (เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 1.6) โดยเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ 428,113 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 65 ของของเสียอันตรายทั้งหมด) แต่เนื่องด้วยการจัดการไม่มีระบบการจัดการที่เหมาะสมตั้งแต่บ้านเรือนจนถึงปลายทาง ส่งผลให้ปัญหาการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม