🎊🎊 วันที่ 6 มีนาคม 2568 กองนวัตกรรมวัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนา “ผลสำเร็จของการ Update/Upgrade ธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยี Recycle/Upcycle เพื่อเข้าสู่ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียน” ภายใต้ “โครงการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรม เพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี” ณ ห้องประชุมกมลทิพย์ 1 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
🏷️ การสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนางสาวอารยา ไสลเพชร รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นประธานในการเปิดงาน โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัย เข้าร่วมการสัมมนาจำนวนกว่า 80 คน
🏷️ ผลจากการดำเนินงานโครงการในปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล/อัพไซเคิล รวมทั้งมีสถานประกอบการที่ได้รับคำปรึกษาแนะนำเชิงลึก โดยได้นำเทคโนโลยีรีไซเคิล/อัพไซเคิลมาประยุกต์ใช้ในการประกอบการ จำนวน 4 กิจการ ได้แก่
✅การรีไซเคิล/อัพไซเคิลน้ำเสียโดยการยืดอายุการใช้งานของน้ำล้างชิ้นงานจากกระบวนการชุบชิ้นส่วนรถยนต์
✅การรีไซเคิล/อัพไซเคิลฝุ่นเหล็กจากระบบบำบัดอากาศที่ปนเปื้อนน้ำมันคูลแลนท์โดยการนำไปเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตสังกะสีออกไซด์ด้วย Waelz Process
✅การรีไซเคิล/อัพไซเคิลกากปูนขาวจากอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ โดยการนำไปเป็นสารเติมแต่งในอุตสาหกรรมการผลิตไม้เทียม
✅การรีไซเคิล/อัพไซเคิลเศษไม้พาเลทโดยการใช้เป็นวัสดุดูดซับน้ำมันคูลแลนท์สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงผสม
🏷️ จากการดำเนินงานครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากต้นทุนที่ลดลงหรือรายได้ที่เพิ่มขึ้น 💵 ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาทต่อปี และหากมีการนำต้นแบบที่ได้พัฒนาตามแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ จะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ไม่ต่ำกว่า 200 ตัน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (เทียบเท่า) ต่อปี ซึ่งยังไม่นับรวมมูลค่าทาง💰 เศรษฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development) ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) ได้จัดการสัมมนา “สถานการณ์การจัดการของเสียและนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน” ณ ห้องจามจุรี บอลรูม บี โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการของเสียให้เป็นไปตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน เน้นการนำทรัพยากรที่ถูกนำไปใช้แล้วกลับมาแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาจากทั้งภาคสถาบันการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชน เป็นจำนวนมาก โดยงานสัมมนาดังกล่าวได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิจัยเชี่ยวชาญ สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานกลุ่มของเสียชุมชน ศาสตราจารย์ ดร.อรทัย ชวาลภาฤทธิ์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.ชวาธิป จินดาวิจักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายรับรองระบบ และกำกับดูแลสายธุรกิจ Conformity Assessment Bodies สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ

📑🌏♻️🏢ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมจัดงานสัมมนาวิชาการเรื่อง “เครื่องมือประเมินความเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนเชิงผลลัพธ์ขององค์กร โดยการใช้ผังการไหลของโมเดลการผลิต การบริโภค และการจัดการของเสีย” กิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาเครื่องมือประเมินความเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนเชิงผลลัพธ์ของ องค์กร โดยการใช้ผังการไหลของโมเดลการผลิต การบริโภค และการจัดการของเสีย สนับสนุนโดย: หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) (ผู้ให้ ทุน) มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ผู้ให้ทุนร่วม)ในวันที่ 26 ธันวาคม 2566 เวลา 9.00 – 13.00 น. ณ ณ ห้อง Sky 1 ชั้น 6 โรงแรม Skyview สุขุมวิท 24 จ.กรุงเทพฯ และรูปแบบออนไลน์ มีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 53 ท่าน งานสัมมนานี้ได้มีการนำเสนอผลดําเนินการพัฒนาเครื่องมือประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และสามารถใช้ในการติดตามและประเมินผล ช่วยในการตัดสินใจ รวมถึงยังมีศักยภาพในการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และความสัมพันธ์เชิงกลุ่มอุตสาหกรรมหรือเชิงพื้นที่ได้ พร้อมทั้งระบุจุดที่ยังมีโอกาสในการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยใช้การวิเคราะห์ผังการไหลของวัสดุที่เข้าและออกจากองค์กร ตามโมเดลการผลิต-การบริโภค-การจัดการของเสีย โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา เข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์รับฟังความคิดเห็น รวมถึงเผยแพร่ผลการศึกษาวิจัย เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป