วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย (ศสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Hub of Waste Management for Sustainable Development: WMS HUB) จัดกิจกรรมอบรมเชิงวิชาการในหัวข้อ 
“การชดเชยคาร์บอนจากการจัดการของเสีย” ณ ห้องบรรยาย ชั้น 9 อาคารวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมมากกว่า 30 ท่าน ประกอบด้วย นักวิจัย อาจารย์ นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อม และผู้ประกอบการแปรรูปของเสียทั้งจากภาครัฐและเอกชนกิจกรรมครั้งนี้ ศสอ.ได้รับเกียรติจาก 
ดร.ภานุวัฒน์ อุสาห์เพียร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืน (Product Manager – Sustainability) จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (ประเทศไทย) จำกัด (BSI) มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ในหัวข้อเกี่ยวกับการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) แนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากภาคของเสีย การคำนวณการลดคาร์บอน รวมถึงกรณีศึกษาที่สะท้อนการประยุกต์ใช้ได้จริงในระดับองค์กร พร้อมทั้งเปิดเวทีให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าอบรมในการร่วมแสดงความคิดเห็น ซักถาม และแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกัน ทั้งในเรื่องแนวทางการจัดการคาร์บอนภายในองค์กร การจัดการของเสียให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความตระหนักของสังคมไทยต่อประเด็นสิ่งแวดล้อม และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการจุดประกายแนวคิด พร้อมผลักดันแนวทางการจัดการของเสียอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต อย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.ภานุวัฒน์ อุสาห์เพียร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืน (Product Manager – Sustainability) จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (ประเทศไทย) จำกัด (BSI) มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ในหัวข้อเกี่ยวกับการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) แนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากภาคของเสีย การคำนวณการลดคาร์บอน รวมถึงกรณีศึกษาที่สะท้อนการประยุกต์ใช้ได้จริงในระดับองค์กร พร้อมทั้งเปิดเวทีให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าอบรมในการร่วมแสดงความคิดเห็น ซักถาม และแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกัน ทั้งในเรื่องแนวทางการจัดการคาร์บอนภายในองค์กร การจัดการของเสียให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความตระหนักของสังคมไทยต่อประเด็นสิ่งแวดล้อม และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการจุดประกายแนวคิด พร้อมผลักดันแนวทางการจัดการของเสียอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต อย่างยั่งยืนต่อไป
